Science Tales

นิทานวิทยาศาสตร์

นิทานวิทยาศาสตร์ เรื่องถุงวิเศษ ตอนที่ 2
นิทานวิทยาศาสตร์ เรื่องถุงวิเศษ ตอนที่ 2

 นิทานภาพ ทำไมเมฆจึงมีรูปร่างต่างๆ


 ครั้งหนึ่ง มีนางฟ้าน้อยสององค์เป็นเพื่อนกันองค์หนึ่งชื่อแวว

  อีกองค์ชื่อวาว

  ทั้งนางฟ้าแววและวาวมีคฑารูปดาวเป็นของวิเศษประจำตัวนึกอยากได้อะไร ก็ใช้คฑาชี้ไปที่ก้อนเมฆ เมฆก็จะรวมตัวกันเป็นของที่ทั้งสองต้องการ ตกเย็น ของเหล่านั้นจึงสลาย กลายเป็นเมฆตามเดิมแต่นางฟ้าวาวมักนึกไม่ค่อยออก ว่าจะเสกอย่างไรเพื่อนเล่นจึงจะสวยงาม  


 จึงมักแอบดูเพื่อนของนางฟ้าแวว แล้วเสกตาม "ขอเสกตามตัวนี้หน่อยนะจ๊ะ" เธอมักบอกต่อนางฟ้าแวว  ส่วนนางฟ้าแววนั้นชอบวาดเธอจึงเปลี่ยนคฑาให้เป็นพู่กันและวาดเมฆเล่นให้เป็นเพื่อนเล่นทุกวัน นางฟ้าแววจึงมักตื่นแต่เช้า เพื่อวาดเมฆเป็นรูปร่างเสมอ

 และเล่นกับเพื่อนของเธอจนเย็น  วันหนึ่ง  นางฟ้าวาวสงสัย

 จึงถามนางฟ้าแววว่า“ทำไมเธอไม่เสกเอาล่ะเสร็จเร็วกว่าตั้งแยะ  จะได้เล่นสนุกเร็วๆ”

 นางฟ้าแววบอกว่า “แต่วาดเอาเองสนุกกว่านะ เพราะเราจะสนุกทั้งตอนที่กำลังวาดและตอนที่วาดเสร็จแล้วเลยละ”

 นางฟ้าวาวอยากรู้ว่าสนุกอย่างไร จึงขอยืมพู่กันของนางฟ้าแววไปวาดเล่นบ้าง เธอวาดเมฆเป็นต้นไม้ และวาดนกน้อยด้วย

 วาดชิงช้าให้นางฟ้าแววนั่ง

 แล้วเธอก็โหนต้นไม้เล่น“สนุกจังเลย” เธอว่า“สนุกกว่าเสกเอาตั้งเยอะแน่ะ” ตั้งแต่นั้นมาเธอก็เปลี่ยนคฑาให้เป็นพู่กันและวาดปุยเมฆให้เป็นเพื่อนเล่นทุกวัน

 เราจึงมักเห็นเมฆรวมตัวกันเป็นรูปร่างต่างๆนาๆมากขึ้นกว่าแต่ก่อนมาจนถึงทุกวันนี้

และเพราะฝึกวาดโดยบางครั้งถามวิธีการจากนางฟ้าแววทุกวัน เพื่อนเล่นของนางฟ้าวาวจึงสวยขึ้นๆ

 "ดีจัง"นางฟ้าวาวคิด"ไม่ต้องเสกตามนางฟ้าแววอีกแล้ว"

เด็กๆล่ะคะ คิดอยากทำอะไรด้วยตัวเองเหมือนนางฟ้าวาวแววด้วยแล้วไหม

หมายเหตุ
ข้อเสนอสำหรับผู้เล่า
ผู้เล่าควร “โน้มน้าว” เด็กให้คิดตามจน “เห็น” คำตอบ (ดังเช่นที่แสดงในวงเล็บ เป็นต้น) ด้วยตนเองในปัญหาที่ตั้งดังเช่น
1 ทำไมนางฟ้าแววจึงวาดรูปสวย
(เพราะหลายเหตุผลประกอบกัน ทำให้นางฟ้าแววประสบความสำเร็จในการทำงาน เช่น 
-รู้ถึงประโยชน์ที่ได้
-พอใจในสิ่งที่ทำ   
-ขยันฝึกฝน
เป็นต้น)
2 ทำไมนางฟ้าวาวจึงวาดไม่สวยในตอนต้นเรื่อง
(เพราะหลายๆเหตุผลประกอบกัน เช่น
-ไม่หมั่นฝึกการคิด
-ไม่หมั่นฝึกปฏิบัติ
-ใจร้อน ต้องการผลสำเร็จโดยเร็ว
เป็นต้น)
3 ทำไมนางฟ้าวาวจึงมักลอกภาพนางฟ้าแวว
(เพราะเหตุผลที่ต่อเนื่องกัน เช่น
เพราะไม่ฝึกหัดการทำงานจึงไม่รู้วิธีการทำงาน
เพราะไม่รู้วิธีการทำงานจึงวาดไม่สวย
เพราะวาดไม่สวย จึงลอกภาพ
เป็นต้น )
(เพราะหลายๆเหตุผลประกอบกัน เช่น
-ใจร้อนอยากได้ภาพสวยๆเร็วๆ
-ไม่เห็นประโยชน์ในการฝึกฝน
-ไม่พอใจในการฝึกฝน  
เป็นต้น)
4 ทำไมนางฟ้าวาวจึงวาดภาพสวยขึ้น
                (เพราะหลายๆเหตุผลประกอบกัน เช่น
                -รู้ประโยชน์ของการทำงาน
                -พอใจในการฝึกฝน
                -หมั่นขอความรู้จากผู้รู้
                -หมั่นนำความรู้ที่ได้มาฝึกหัด และพัฒนาเป็นแนวทางของตน
                เป็นต้น)
เมื่อเด็กๆได้คำตอบตามที่ผู้เล่าต้องการแล้ว ควรชี้ให้เด็กเห็นว่า
-การคิดที่ได้คำตอบเป็นหลายๆเหตุผลประกอบกัน เช่นคำตอบในทั้ง 4 ข้อ เรียกการคิดเชิงวิเคราะห์ อันเป็นการคิดในเนื้อหาหลักสูตร และสามารถจัดเป็นการคิดแบบแยกแยะองค์ประกอบ อันเป็นหนึ่งในการคิดแบบโยนิโสมนสิการในพุทธศาสนา
คำตอบที่ได้ แสดงให้เห็นหลักปฏิจจสมุปบาทในพุทธศาสนาในแง่ที่ สิ่งต่างๆประชุมพร้อมกันเกิดขึ้น เกิดเพราะการอิงอาศัยกันของเหตุปัจจัย
-การคิดที่ได้คำตอบแบบคำตอบที่ได้ ที่เป็นเหตุเป็นผลเหตุผลต่อเนื่องกัน เช่นในข้อ 3 เรียกการคิดแบบสืบสาวหาปัจจัย หรือสืบสวนต้นเค้า อันเป็นหนึ่งในการคิดแบบโยนิโสมนสิการ
คำตอบที่ได้ แสดงให้เห็นหลักปฏิจจสมุปบาทในพุทธศาสนาในแง่ที่ เพราะสิ่งนี้มี สิ่งนั้นจึงมี สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นปัจจัยส่งผลสืบเนื่องกันไป
-เหตุที่นางฟ้าวาว ซึ่งวาดไม่สวย (ทำงานไม่สำเร็จ) ในตอนต้น สามารถพัฒนาตนจนพอใจผลงานได้ในที่สุด เพราะอาศัยองค์ธรรมในอิทธิบาท 4 (คุณเครื่องให้ถึงความสำเร็จ,คุณเครื่องสำเร็จสมประสงค์, ทางแห่งความสำเร็จ) อันประกอบด้วย
1 ฉันทะ พอใจในสิ่งนั้น
2 วิริยะ ความพยายามทำในสิ่งนั้น
3 จิตตะ ความเอาใจใส่ ฝักใฝ่ในสิ่งนั้น
4 วิมังสา พิจารณาใคร่ครวญหาเหตุผลในสิ่งนั้น
เหล่านี้เป็นสิ่งที่ผู้เล่าสามารถชักนำเด็กให้เกิดความเข้าใจได้

นิทานเรื่อง ก้อนเมฆ พระอาทิตย์ พระจันทร์
















ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น